สองขั้นตอนง่ายๆในการทดสอบ Heavy Duty Piston |
เนื่องจากปัจจุบันมีบริษัทผลิตลูกสูบอยู่มากมายหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย และ ประเทศไทย ทำให้มีการผลิตลูกสูบ ออกมาหลากหลายยี่ห้อ รวมถึงมีการลอกเลียนแบบยี่ห้อดังๆ (โดยเฉพาะลูกสูบที่ผลิตในประเทศจีน) ทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถ ดูเพียงแต่ตราประทับบนกล่องลูกสูบหรือบนตัวผลิตภัณฑ์ได้อีกต่อไป เพราะกว่าครึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบที่ไม่ได้มาตรฐาน |
ประเด็นหลักๆของลูกสูบที่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมีอยู่ 4 ประเด็น
- รูปร่างและขนาดถูกต้องแม่นยำ สำหรับเครื่องยนต์รุ่นนั้นๆ
- จุดรับแรงสามจุด (หัวลูกสูบ, ร่องแหวนอัด, และ รูสลัก) ต้องแข็งแรงเพียงพอสำหรับการใช้งานหนัก
- ไม่มีสิ่งแปลกปลอมที่หน่วงประสิทธิภาพการใช้งาน
- สามารถถ่ายเทความร้อนได้ดี
|
ดังนั้นสองขั้นตอนง่ายๆในการทดสอบลูกสูบ (โดยไม่ต้องทำลายลูกสูบ) ที่สามารถทำได้ที่ร้านขายลูกสูบก็คือ |
1. ทดสอบช่องน้ำมันหล่อเลี้ยงภายในหัวลูกสูบว่าทะลุถึงกันหรือไม่ |
วิธีการทดสอบง่ายคือ การเป่าลมเข้าไปในช่องทางเข้า แล้วดูว่า มีลมออกที่ช่องในอีกด้านนึงหรือไม่ |
อย่างที่กล่าวขั้นต้น ช่องน้ำมันในหัวลูกสูบมีความสำคัญมากในการถ่ายเทความร้อน จากหัวลูกสูบไปยังน้ำมันเครื่อง แต่เนื่องจากการทำช่องวงแหวนภายในหัวลูกสูบนี้ซึ่งเป็น เทคโนโลยีขั้นสูงของการหล่อ (เพราะร่องน้ำมันนี้อยู่ภายในหัวลูกสูบตันที่ไม่สามารถ นำแม่แบบพิมพ์ของช่องน้ำมันนี้ออกมาได้ภายหลังการหล่อ) ทำให้มีผู้ผลิตมากมาย ใช้วิธีการเจาะช่องเข้าและช่องออกหลอกผู้ซื้อไว้ แต่กลับไม่มีช่องวงแหวนภายในหัวลูกสูบ
|
|
2. ทดสอบการตอบสนองกับแม่เหล็กของร่องแหวนเหล็ก |
วิธีการทดสอบง่ายคือ การเอาแม่เหล็กไปใกล้ๆร่องแหวนเหล็กแล้วดูว่ามีการเหนี่ยวนำเกิดขึ้นหรือไม่ |
เหล็กเป็นวัสดุที่มีความทนทานมากกว่าอลูมิเนียม ดังนั้นการนำเหล็กมาใช้ที่ร่องแหวนอัด จะช่วยลดการสึกหรอที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี เพียงแต่ว่าหากเหล็กมีการเหนี่ยวนำทาง สนามแม่เหล็ก จะทำให้พอใช้งานในเครื่องยนต์ที่มีการเคลื่อนที่ขึ้นลงตลอดเวลา จะเกิดสนามแม่เหล็กขึ้น และ เป็นการหน่วงการเคลื่อนที่ของลูกสูบ ดังนั้นเหล็กที่ใช้ ประกอบในลูกสูบ ต้องเป็นเหล็กชนิดพิเศษที่ไม่เกิดปฏิกริยากับแม่เหล็ก เท่านั้น |
|
นอกจากสองขั้นตอนข้างตันแล้ว มีอีกสองวิธีในการทดสอบแบบทำลายที่จะพิสูจน์ได้ว่าลูกสูบนั้นมีมาตรฐานที่เชื่อถือได้เพียงใด วิธีหนึ่งคือใช้เครื่องวัดความแข็งที่หัวลูกสูบ และ อีกวิธีหนึ่งคือ ผ่าลูกสูบดูความหนาแน่นและช่องน้ำมันภายใน |
|